Spheric Lens กับ Aspheric Lens แตกต่างกันอย่างไร
เลนส์แว่นตา สามารถแบ่งตามรูปแบบของผิวเลนส์หลักๆ ได้เป็น 2 กลุ่ม คือ
- Spherical Lens เลนส์โค้งปกติ
เลนส์โค้งปกติ เป็นโครงสร้างมาตรฐาน มีลักษณะที่สังเกตได้ง่ายคือ เลนส์จะมีความโค้ง ลักษณะหน้าโค้งเลนส์จะไม่แบนราบเหมือนกับเลนส์โค้งแบน (Aspherical Lens) โดย Spherical Lens ใช้รวมแสงได้ดี แต่จุดรวมแสงจะกว้างเพราะความยาวคลื่นแสงแต่ละสีไม่เท่ากัน ทำให้เกิด Spherical aberration และหากลูกค้ามีค่าสายตาที่สูงมาก ก็จะยิ่งเกิด Spherical aberration มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ลานสายตาในการมองภาพคมชัดในแนวศูนย์กลางแคบลง และมีภาพบิดเบือน (Distortion) มากขึ้นที่บริเวณขอบเลนส์
โครงสร้างของ Spherical lens เป็นเลนส์โค้งนูนปกติทั้งด้านหน้าและด้านหลังของเลนส์ โดยความโค้งของเลนส์จะแปรผันตามค่ากำลังของเลนส์ที่เพิ่มขึ้น เลนส์รุ่นนี้ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ แล้วต้องการใส่สลับกับแว่นสายตา เนื่องจากมีค่าบิดเบือนด้านข้างของเลนส์สูงและปรับตัวยาก ภาพไม่เป็นธรรมชาติ มุมมองที่ได้ชัดแค่บริเวณจุดศูนย์กลางของเลนส์ ภาพที่ได้ไม่คมชัด เบลอ หรือเห็นภาพซ้อนลางๆ บริเวณขอบของเลนส์ อันเกิดจากการหักเหของแสงที่บริเวณส่วนโค้งขอบเลนส์ Spherical lens นั้นมีจุดที่แสงหักเหไม่ผิดเพี้ยนคลาดเคลื่อนเพียงจุดเดียวคือจุดศูนย์กลางของเลนส์และบริเวณใกล้เคียง
- Aspherical Lens เลนส์โค้งแบนแบบด้านเดียว
โครงสร้างของ Aspherical lens เป็นเลนส์โค้งแบนบริเวณด้านหน้าของเลนส์ โดยความโค้งของเลนส์จะมีลักษณะแบนกว่าเลนส์ประเภท Spherical lens เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มฝึกใส่แว่นตาสลับกับคอนแทคเลนส์และมีค่าสายตาไม่มาก เมื่อมองผ่านเลนส์จะรู้สึกสบายตา ภาพคมชัด เหลือบด้านข้างได้มากขึ้น บางและเบามากขึ้นเมื่อเทียบกับ Spherical lens
เลนส์โค้งแบนแบบด้านเดียว (Aspherical Lens) จะมีความสวยงามมากกว่า เลนส์จะดูแบนราบกว่าและบางขึ้น ข้อแตกต่างจาก Spherical Lens คือ Aspherical Lens จะค่อยๆเปลี่ยนแปลงความโค้งให้น้อยลงจากศูนย์กลางสู่ขอบนอกของเลนส์ ซึ่งสามารถลดหรือกำจัด Spherical aberrationได้ และช่วยลดความคลาดของแสงต่างๆได้ ทำให้เลนส์มีคุณลักษณะพิเศษเพิ่มเติมคือ ลานสายตาจะกว้างมากยิ่งขึ้นและช่วยลดภาพบิดเบือนด้านข้างได้มากยิ่งขึ้น ทำให้คุณภาพของภาพที่มองผ่าน Aspherical Lens จะดีกว่าเลนส์ทั่วไป สามารถเหลือบมองไปในทิศทางต่างๆได้ไกลขึ้น กว้างขึ้น และได้องศาที่มากขึ้น
ดังนั้น หากเรามีค่าสายตาสั้นเล็กน้อย สามารถแก้ได้โดยการใช้ Spherical Iens ซึ่งเป็นเลนส์ที่มีความโค้งเท่ากันในทุกจุด ตั้งแต่บริเวณจุดศูนย์กลางของเลนส์ไปจนถึงขอบเลนส์
ข้อดีของ spherical lens คือ ผลิตได้ง่ายและราคาถูก แต่ข้อเสียของเลนส์ชนิดนี้คือ ในผู้ที่มีค่าสายตาสูง ความคมชัดจะลดลงเนื่องจากผู้ใส่จะมองเห็นภาพบิดเบือนบริเวณขอบเลนส์ที่เกิดจากโครงสร้างของเลนส์ (Spherical aberration) และหากมีสายตาสั้นมากเมื่อมองผ่านเลนส์จะเห็นตาของผู้ใส่เล็กกว่าความเป็นจริง ทำให้เกิดความไม่มั่นใจต่อผู้ใส่ได้ด้วยเหตุผลทางด้านความสวยงาม หากสายตาสั้นมาก เลนส์ขัดแบน 1 ด้าน (Aspherical lens) อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า Spherical lens เนื่องจากโครงสร้างของเลนส์ชนิดนี้ ความโค้งของเลนส์จะขัดไล่ความโค้งจากจุดศูนย์กลางของเลนส์ไปยังขอบเลนส์ ทำให้ผู้ใส่มองเห็นภาพบิดเบือนบริเวณขอบเลนส์ที่น้อยกว่า อีกทั้งยังได้น้ำหนักที่เบากว่า Spherical lens อีกด้วย แต่หากเรามีคำสายตาสั้นมากๆ (High myopia)
โครงสร้างเลนส์แบบ Double aspherical lens หรือที่เรียกว่าเลนส์ขัดแบน 2 ด้าน อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า นอกจากจะลดภาพบิดเบือนที่บริเวณขอบของเลนส์ได้ดีกว่า ทำให้ได้ภาพที่มีความคมชัดมากกว่าแล้ว เลนส์ยังบางและมีน้ำหนักเบากว่าเลนส์ขัดแบน 1 ด้าน Aspherical lens และ Spherical Iens
ปรึกษา / นัดคิวตรวจสายตา
Line id : @Siamglasses
โทรศัพท์ : 092-1234-957